วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

5 สเต็ปเทพ “นักการตลาด” ปรับตัวสู้ “ผู้บริโภคยุคดิจิตอล”

          ในยุคข้อมูลข่าวสารจำนวนมหาศาลถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว และถูกแชร์กันอย่างทันที  ทำให้ผู้บริโภคมีความเฉพาะตัวและแยกตามความสนใจเป็นกลุ่มย่อย  ซึ่งหมายถึงความซับซ้อนยิ่งขึ้น ทำให้นักการตลาดทำงานหนักมากขึ้นไปอีก  นักการตลาดจึงต้องหาทางรับมือข้อมูลจำนวนมากเหล่านั้น พร้อมทั้งปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองแนวโน้มพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภค  มายด์แชร์ (Mindshare) จึงเผย อแด๊ปทีฟ มาร์เก็ตติ้ง (Adaptive Marketing) แนวการทำงานที่รวดเร็วและมีความยืดหยุ่นในการนำข้อมูลที่ผู้บริโภคแชร์ในสื่อดิจิตอลมาประมวลผลเชิงลึก เพื่อปรับปรุงกิจกรรมการตลาดในทุกๆส่วน และตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้รวดเร็วกว่าเดิม  Brand Buffet สรุปใจความสำคัญดังนี้

โดยพื้นฐานของนักการตลาดต้องปรับตัวให้ทัน 3 อย่าง  คือ 
1. พฤติกรรมผู้บริโภค ที่เป็นเทรนด์ของผู้บริโภคในอนาคต 
2. เทคโนโลยีการสื่อสารใหม่ๆ 
3. วัฒนธรรมหรือเหตุการณ์ประจำวันของผู้บริโภค

5  สเต็ปการปรับตัวของนักการตลาดและนักโฆษณาในยุคข้อมูลข่าวสารมหาศาลและผู้บริโภครุดหน้าไปไกล

1. ต้องเข้าใจ Consumer Journeys ของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ไม่เหมือนเดิมที่ (ดูโฆษณา เกิดความสนใจ ไปห้าง ซื้อของ) ซึ่งเรียกกว่า Dynamic Consumer Journeys  ดังนั้นต้องมีหลายๆแพลนไว้รองรับกลุ่มเป้าหมาย

2. เดิมการแพลนสื่อจะเลือกลงเป็นประเภทๆ ไป ลงไปตามงบที่มีอยู่  หากเป็นไปตาม Dynamic Consumer Journeys จะต้องอินทริเกตสื่อต่างๆเข้าด้วยกัน เพื่อให้สอดคล้องกับเส้นทางของผู้บริโภค  ทั้งนี้ต้องให้สื่อสารไปในทางทิศเดียวกัน

3.  จากเส้นทางการเดินของผู้บริโภค และ การวางแผนสื่อ ทำให้เป็นการล๊อครูปแบบของสื่อและงบอย่างตายตัว  ดังนั้นควรจะหันกลับมาเริ่มที่โจทย์ของทางมาร์เก็ตติ้งว่าต้องการอะไร

4.  เปลี่ยนจากรายงานประจำเดือนหลังจากจบแคมเปญ  เป็น ดูข้อมูลที่เป็น Fast Moving Data จากออนไลน์ และปรับเปลี่ยนงานหรือแคมเปญแบบ Real-time ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

5. เทคโนโลยีในการรวบรวมข้อมูลใครๆก็มีได้  แต่จะต้องหาบุคคลสามารถประมวลผลหรือดาต้าให้เป็นข้อมูลที่ใช้งานได้ด้วย

นอกจากนี้แนวการพัฒนาคอนเท้นท์  การวางแผนการตลาด  หรือ การจัดสรรงบประมาณ   ควรแบ่งออกเป็น 3 ส่วน  คือ



1. ส่วนที่มั่นใจในผลลัพธ์หรือประสิทธิภาพ  ซึ่งมีความเสี่ยงน้อย อาจจะลงทุนหรือให้ความสำคัญ ราว 70%

2. ส่วนที่คิดว่ามีความเป็นไปได้จากข้อมูลที่มีอยู่  ซึ่งมีความเสี่ยงระดับปานกลางอาจจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ  ให้ลงทุนราว 20%

3. ส่วนที่อยากลองปรับเปลี่ยนสิ่งใหม่ๆ  ซึ่งมีความเสี่ยงระดับสูง  ให้แบ่งการลงทุนไว้ 10%
FYI :
·      90% ของข้อมูลในโลกปัจจุบันเกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (ข้อมูลจาก IBM)
·      อุปกรณ์สื่อสารกว่า 35,000 ล้านเครื่องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต (Cisco system)
·      โดยเฉลี่ยคนแชร์ข้อมูลส่วนตัวกว่า 3,245 ชิ้น เก็บไว้ใน Database บนโลกออนไลน์ทุกอาทิตย์โดยไม่ทันรู้ตัว

CR: By BrandBuffet Team – August 22, 2013

--------------------- ---------------------- ----------------------
...พบเทคนิค การซื้อ - ขายสินค้า
ใน eBay อย่างไรให้รวย!...
..พบคอร์ส "อบรม อีเบย์ eBay เบื้องต้น" ฟรี!!...

ทุกวันเสาร์ 2 รอบ เวลา 9:00 น. , 14:00 น. 

สถานที่ : ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 3 อาคารเจเจเอ้าท์เล็ท 
ตรงข้ามห้างเจเจมอลล์ ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน MRT กำแพงเพชร

สำรองที่นั่งด่วน รับจำนวนจำกัด

090-8891750 , 089-1105477

หรือ คลิกที่นี่




วันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ชาวอเมริกัน 10% คลิกซื้อสินค้าออนไลน์ด้วยแท็บเล็ตใน”ห้องน้ำ”

ใครที่อยากสร้างร้านออนไลน์ อาจจะต้องพัฒนาให้ผู้ใช้แท็บเล็ตสามารถคลิกซื้อได้ง่ายจากห้องน้ำเลย เพราะหากคุณสามารถพัฒนาระบบที่ผู้ใช้แท็บเล็ตสามารถสั่งซื้อสินค้าได้จากห้องน้ำ ก็แปลว่าคุณสามารถผลักดันลูกค้าให้สามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์บนแท็บเล็ตได้จากทุกห้องของบ้าน

เพราะแท็บเล็ตนั้นทำให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถสั่งซื้อสินค้าได้จากทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ ทั้งขณะอยู่บนเตียง ในครัว หรือแม้กระทั่งบนชักโครก การสำรวจล่าสุดในตลาดอเมริกันพบว่าในกลุ่มผู้ใช้แท็บเล็ตสหรัฐฯมากกว่า 1,000 คน ส่วนใหญ่นิยมสั่งซื้อสินค้าผ่านแท็บเล็ตเมื่อนั่งเอนหลังในห้องนั่งเล่นมากกว่า 44% ขณะที่อีก 23% บอกว่าคลิกซื้อบนเตียงและโต๊ะเครื่องแป้งในห้องนอน

toilet

การสำรวจของบริษัท SeeWhy (สำนักใหญ่ในบอสตัน) ระบุว่ากลุ่มตัวอย่าง 19% ระบุว่าหยิบแท็บเล็ตขึ้นมาสั่งซื้อสินค้าผ่านในห้องครัวราว 19% ขณะที่อีก 14% บอกว่าลงมือสั่งซื้อเมื่อใช้งานแท็บเล็ตนอกบ้าน โดย 10% เท่านั้นที่สั่งซื้อสินค้าจากห้องน้ำ

toilet2

SeeWhy นั้นเป็นบริษัทผู้สร้างซอฟต์แวร์ด้านการตลาดที่เน้นดึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้กลับมาที่เว็บไซต์ช็อปปิ้งออนไลน์อีกหากพบว่าลูกค้ากลุ่มนี้ออกจากเพจไปโดยไม่ได้ซื้ออะไรติดไม้ติดมือไป สิ่งที่ SeeWhy พบเพิ่มเติมจากการสำรวจครั้งนี้คือ ผู้ใช้อเมริกันนิยมซื้อสินค้าบนแท็บเล็ตมากกว่าบนสมาร์ทโฟนถึง 3 เท่าตัว โดยเป็นข้อสรุปจากการศึกษาทรานเซ็กชันมากกว่า 21 ล้านทรานเซ็กชันจากลูกค้าหลายพันรายบนแพลตฟอร์มของ SeeWhy เอง

อย่างไรก็ตาม บริษัทวิจัย eMarketer เคยประกาศผลการศึกษาล่าสุดว่า ในอนาคต ผู้ใช้ทั่วโลกจะสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนมากกว่าแท็บเล็ต เนื่องจากจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนในโลกจะเพิ่มขึ้นจนทำให้จำนวนผู้สั่งซื้อสินค้าด้านสมาร์ทโฟนจะมีจำนวนมากกว่าผู้ซื้อบนแท็บเล็ต จุดนี้ยังเป็นเรื่องคาดการณ์ล่วงหน้าที่ต้องรอดูว่าจะเป็นจริงอย่างที่ใครพยากรณ์ไว้


---------------------- ---------------------- ----------------------
...พบเทคนิค การซื้อ - ขายสินค้า
ใน eBay อย่างไรให้รวย!...
..พบคอร์ส "อบรม อีเบย์ eBay เบื้องต้น" ฟรี!!...

ทุกวันเสาร์ 3 รอบ เวลา 9:00 น. , 14:00 น. , 18:00 น.

สถานที่ : ชมรมคนรักอีเบย์ สถานีรถไฟใต้ดิน MRT สวนจตุจักร

สำรองที่นั่งด่วน รับจำนวนจำกัด

090-8891750 , 089-1105477

หรือ คลิกที่นี่




วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ทำบัตรเครดิต โดยไม่ต้องมีสลิปเงินเดือน ไม่ต้องมี Statement

“อยากทำ eBay แต่ไม่มีบัตรเครดิต  ทำอย่างไร??”
“ไม่ได้ทำงานประจำ”    “ไม่มีสลิปเงินเดือน”
“ไม่มี statement ธนาคาร”     ทำบัตรเครดิต ได้หรือไม่?? 

     เนื่องจากกฏระเบียบของทาง eBay ซึ่งออกมาเมื่อต้นปี 2555  กำหนดให้ “ผู้ขาย” ทุกคนใน eBay จะต้องมีบัตรเครดิต เพิ่มเติมจากบัญชี PayPal ที่ใช้เป็นช่องทางการชำระเงิน และรับเงินออนไลน์
     ทำให้หลายท่านที่ไม่ได้ทำงานประจำ  ไม่มีสลิปเงินเดือน ไม่มี statement ไม่สามารถทำบัตรเครดิตได้ และเมื่อไม่มีบัตรเครดิต ก็ไม่สามารถจะขายสินค้าใน eBay ได้
     วันนี้เราจะมาแนะนำ  การทำบัตรเครดิต โดยใช้บัญชิเงินฝากประจำค้ำประกัน ของธนาคารกรุงเทพ   สำหรับท่านที่ไม่มี statement หรือ สลิปเงินเดือน ค่ะ
 BBLlogo-
สิ่งที่ต้องเตรียมไป

1. บัตรประชาชนตัวจริง
2. เงินสด ขั้นต่ำ 10,000  บาท

ขั้นตอนปฏิบัติ
1. ติดต่อ ธ.กรุงเทพ แนะนำสาขาจตุจักร หรือสาขาใกล้บ้าน
2. แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าต้องการทำบัตรเครดิต โดยเปิดบัญชีเงินฝากประจำค้ำประกัน
3. กรอกเอกสาร และอ่านเงือนไขโดยละเอียด
4. เปิดบัญชีเงินฝากประจำ ขั้นต่ำ 10,000  บาท  ซึ่งเราจะได้วงเงินในบัตรเครดิตตามจำนวนเงินฝากนี้
5. เลือกว่าจะฝากประจำ 3 เดือน , 6 เดือน , หรือ 12 เดือน  โดยท่านจะได้รับดอกเบี้ย ตามอัตราที่ธนาคารกำหนด
6. หลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ จะได้รับการติดต่อจากธนาคารเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
7. หากข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วน ประมาณ 2 อาทิตย์ บัตรจะอนุมัติค่ะ ท่านสามารถเลือกว่าจะให้ธนาคารจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ หรือติดต่อรับด้วยตัวเอง


เงื่อนไข

1. ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
2. ต้องไม่มีประวัติหนี้เสีย ในเครดิตบูโร 
3. เมื่อครบอายุเงินฝาก สามารถปิดบัญชีได้ โดยธนาคารจะหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการใช้บัตรเครดิต และค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งเมื่อปิดบัญชีเงินฝากแล้ว บัตรเครดิตก็จะใช้ไม่ได้อีกต่อไป นั่นหมายถึงบัญชี PayPal และ eBay ที่ผูกไว้กับบัตรก็จะใช้ไม่ได้เช่นกัน
   ฉะนั้น สำหรับท่านที่ทำบัตรเครดิตเพื่อใช้ใน ebay ไม่จำเป็น อย่าไปปิดบัญชีเงินฝากนี้ จะเป็นดีที่สุดนะค่ะ
**สำหรับเงื่อนไขอื่นๆ จะเป็นไปตามระเบียบที่ธนาคารกำหนด ซึ่งสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จาก เอกสารของทางธนาคารตอนสมัครค่ะ**

ขอบคุณข้อมูลจาก เจ้าหน้าที่ ธ.กรุงเทพ สาขาสวนจตุจักร   โทร  02-2724422  กด 2 
เวลาทำการ :  จ - พฤ 8.30 น. - 15.30 น. และ  ศ - อา 8.00 น. - 20:00 น.
ที่ตั้ง : ข้างกองอำนวยการสวนจตุจักร ถ.กำแพงเพชร 2
หากเดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน ลงสถานีกำแพงเพชร ออกทางประตู 2
เดินเข้ามาในสวนจตุจักร มองหากองอำนวยการฯ ค่ะ

**เหตุผลที่แนะนำ สาขาสวนจตุจักร เพราะเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกดีมาก เพียงแจ้งว่ามาจาก ชมรมคนรักอีเบย์ค่ะ ^.^ **



--------------------- ---------------------- ----------------------
...พบเทคนิค การซื้อ - ขายสินค้า
ใน eBay อย่างไรให้รวย!...
..พบคอร์ส "อบรม อีเบย์ eBay เบื้องต้น" ฟรี!!...

ทุกวันเสาร์ 2 รอบ เวลา 9:00 น. , 14:00 น. 

สถานที่ : ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 3 อาคารเจเจเอ้าท์เล็ท 
ตรงข้ามห้างเจเจมอลล์ ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน MRT กำแพงเพชร

สำรองที่นั่งด่วน รับจำนวนจำกัด

090-8891750 , 089-1105477

วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556

นอนกับผียังดีกว่านอนกับอวิชชา โดย พุทธทาสภิกขุ

อวิชชา ไม่ใช่ความไม่รู้ (แต่อย่างเดียว) "

ที่เรียกว่าอวิชชานั้นน่าประหลาดอย่างยิ่งอยู่อย่างหนึ่งคือ
ใคร ๆ ก็พยายามจะแสดงตนว่าเป็น "ผู้รู้จักอวิชชา"
และให้ความหมายของอวิชชากันไปเอง
ตามใจชอบของตน ดูประหนึ่งว่าเป็นผู้เข้าใจ
หรือรู้จักอวิชชาอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน

แต่แล้วก็เป็นที่น่าขัน
ที่ความรู้นั้นใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
และยังแถมเข้ากันไม่ได้กับความหมายของอวิชชา
ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้
ทั้งนี้เพราะว่ามันเป็น อวิชชาที่อธิบายโดยผู้ที่มีอวิชชา

สัตว์โลกที่อยู่ภายใต้กะลาครอบของอวิชชา....

เขาไม่ยอมรับว่าเขาเป็นเช่นนั้น
และเขาจะเถียงว่าเขาไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ทั้งนี้ก็เพราะว่า
ภายใต้กะลาครอบนั้น
ก็มีแสงสว่างอยู่ชนิดหนึ่ง
ซึ่งเป็น "แสงของอวิชชา"
เป็นแสงสว่าง
ที่บังลูกตาสัตว์ทั้งหลายไม่ให้เห็น
หรือรู้จักสิ่งทั้งปวง "ตามที่เป็นจริง"
 


เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรียกว่า อวิชชานั้น
ไม่ได้หมายถึง "ความไม่รู้อะไรเลย"
กลับหมายถึง "รู้อะไรๆ มากมายไม่มีที่สิ้นสุดด้วยซ้ำไป"
แต่ว่าล้วนแต่เป็น ความรู้ผิดทั้งนั้น
คือกลับเห็นตรงกันข้ามไปหมด เช่น
เห็นมูลเหตุของความทุกข์ว่าเป็นมูลเหตุของความสุข
อย่างที่เห็นว่า เห็นกงจักรเป็นดอกบัว

เขาไม่เห็นอย่างที่ถูกต้องตามที่เป็นจริงว่า
ความทุกข์นั้นมันเป็นอย่างไรกันแน่
อะไรเป็นมูลเหตุที่แท้จริงของความทุกข์
สภาพที่ปราศจากทุกข์จริงๆ
โดยไม่หลอกลวงนั้นเป็นอย่างไร
และวิธีปฏิบัติอย่างไรคนเราถึงจะเข้าถึง
สภาพที่ไม่มีความทุกข์นั้น
เราอาจจะกล่าวได้ว่า
ความรู้ชนิดใดมากมายเท่าใดก็ตาม
ถ้าปราศจากความรู้ที่ถูกต้องในสิ่งที่กล่าวมานี้
ต้องถือว่าเป็นอวิชชาทั้งนั้น คือ เป็นความรู้ของอวิชชา
หรือเป็นความรู้ที่ใช้ไม่ได้เลยในการที่จะกำจัดความทุกข์
 

ฉะนั้น ถ้าจะมีคำแปลที่ถูกต้องรัดกุม
แก่คำว่า อวิชชาแล้วจะต้องแปลว่า
ธรรมชาติที่ปราศจากความรู้ชนิดที่จะดับทุกข์ได้

ที่มา: พุทธทาสภิกขุ  — ที่ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ

วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

“ราคา” ของความไม่รู้

"ราคา" ของความไม่รู้

>> ผมเคยถูกหลอกกินเงินมัดจำ 20,000 บาท ตอนลงทุนอสังหาฯ ครั้งแรกๆ

... ทั้งที่หนังสือลงทุนอสังหาริมทรัพย์ดีๆ ราคาไม่กี่ร้อยบาท บอกวิธีป้องกันตัวเองจากการถูกหลอกไว้โดยละเอียด

 

>> ผมเคยเสียเงินทำเว็บราคาแพงหลักหลายหมื่น ใส่ลูกเล่นระยิบระยับเต็มไปหมด แต่ไม่โดนใจลูกค้า

... จนมารู้ว่าเว็บไซต์ที่เหมาะกับธุรกิจนั้นเป็นอย่างไร ตอนอบรมคอร์สราคาเพียง 800.-

 

>> ผมเคยขาดทุนกับธุรกิจเป็นแสน เพียงเพราะแค่อวดฉลาด ไม่รู้ ไม่ถาม ไม่สนใจ (อีโก้ล้วนๆ)

...ทั้งๆที่ คำแนะนำดีดีจากคนในวงการลอยผ่านหูไปมา เต็มไปหมด

“ถ้าคุณคิดว่า การจ่ายเงินให้กับความรู้มันแพง

ก็ลองจ่ายเงินให้กับ "ความไม่รู้" ดูสักครั้งสิครับ”

 

Business Man Shrug

- รู้ว่าตัวเอง "ไม่รู้" คือ ความรู้ที่สำคัญที่สุดประการหนึ่ง -

High Understanding, High Returns

     ดังนั้นจงลงทุนในความรู้เป็นอันดับแรก "ความรู้" ช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน คนที่ลงทุนในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ ไม่ต่างอะไรกับการเล่นการพนัน เหมือนเสี่ยงลองดูไปวันๆ ไม่รู้ว่ามันจะสำเร็จเมื่อไหร่ ได้ดีไปแค่ไหน

เป็นเรื่องของ “การเสาะหา” มิใช่ “เกิดมาเป็นเอง”

เป็นเรื่องของ “การต่อสู้” มิใช่ “นั่งดูดวง”

เป็นเรื่องของ “ความเชี่ยวชาญ” ไม่ใช่ “โชคช่วย”

เป็นเรื่องของ “การฝึกฝน” ไม่ใช่ “บุญหล่นทับ”

เป็นเรื่องของ “ความสามารถ” ไม่ใช่ “วาสนา”

เป็นเรื่องของ “พรแสวง” ไม่ใช่ “พรสวรรค์

วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

สมัคร ebay ด้วยบัตร credit เถิด... อย่าละเมิดกฎนี้เลย เดี๋ยวจะเลยเถิดโดนปิด account ยาวววววว !!!


เวปขายสินค้าที่มีคุณภาพสูง มักมีกฎที่อ้างอิงตามหลักการที่ดี
          คือ สิ่งที่ระบุลงไปในการสมัคร จำเป็นต้องมีหลักฐานแสดงตัวตนของบุคคลผู้นั้นได้ ด้วยสถาบันปกครองของประเทศผู้สมัคร ถ้าเป็นคนไทยก็อาจถือที่บัตรประชาชน ที่ออกโดยกรมการปกครอง หรือ pass sport ที่ออกโดนกระทรวงการต่างประเทศ และหลักฐานที่แสดงความมีตัวตนททางการเงินจากสถาบันทางการเงินของประเทศผู้สมัครนั้นๆ เช่น ธนาคารต่างๆของไทยแถมด้วย เวปเพื่อการค้าขายระหว่างประเทศที่มีคุณภาพสูง มักจะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบผู้ละเมิดกฏ จึงเป็นที่มาของคำว่า account โดนปิด/โดนแขวน หรือ ที่เรียกตามศัพท์ ภาษาอังกฤษคือ suspension ....

หลายๆ คน ก็คงสงสัยว่า แล้วทำไมต้องมีการทำแบบนี้ด้วยหล่ะ???
          ก็เพราะเวปการค้าขายในโลกออนไลน์ อาจมีโอกาสเกิดโจรขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าโจรนั้นจะมาในคราบของผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย เช่น ผู้ซื้อบางคนเอาบัตรที่ใช้จ่ายเงินที่แอบทำปลอมมาซื้อสินค้าในเวปไซค์ หรือ ผู้ซื้อบางคนอาจทำทีซื้อสินค้าแล้วพอได้สินค้าก็อ้างว่า ไม่ได้รับของ ทำให้ผู้ขายต้องรับผิดชอบต่อกรณีเหล่านี้ ไม่ว่าจะด้วยการส่งของไปให้ใหม่อีกรอบ หรือ คืนเงินแก่ลูกค้า .. หรือ อาจมาในคราบผู้ขาย เช่น ขายของในราคาสูง เทียบเท่าราคาระดับแบรนด์เนม แต่สิ่งของที่จัดส่งไป กลับเป็นของลอกเลียนแบบ หรือ ที่บ้านเราเรียกกันติดปากว่า ของก๊อปปี้ ซึ่งลองคิดในมุมกลับว่า หากเราเป็นผู้ซื้อ แล้วโดนทำเช่นนี้บ้าง (โอ๊ย ! ซื้อของราคาหลักหมื่น แต่ของที่ได้มา พอใช้ไปซักพัก เพิ่งรู้ว่ามันเป็นของปลอม ก็ตอนมันใช้ได้ไม่กี่ครั้งก็เสีย .. เจ็บใจจัง อยากเห็นหน้าคนขายคนนั้นจัง จะได้....... (แล้วแต่จะคิดกันต่อไปล่ะกัน) .....
          พอหากเจ้าของเวปไซค์เช่น ebay ปล่อยปะละเลยให้มีโจรทั้งในคราบผู้ซื้อและผู้ขายลอยเกลื่อนอยู่ในเวป .. อาจทำให้ผู้ซื้อ ผู้ขายที่เป็นคนดี น้ำดี หายออกจากระบบไปเรื่อยๆดังนั้น เพื่อป้องกันความเลวร้ายจะมาบังเกิดแก่เวปไซด์เหล่านี้ เค้าจึงจัดเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลเฉพาะด้านการจับตามองการกระทำหรือละเมิดกฏ (กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ บางทีก็เกิดจากกลุ่มผู้เข้าไปใช้งานเองนั่นแล่ะ ที่ทำการละเมิดหรือทำอะไรในลักษณะฉ้อโกง มากขึ้นๆ จนเวปไซด์เหล่านั้น ทำการหามาตรการล้อมรั้วไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายมาตกที่คำว่า มาตรการเข้มงวดไง !) และหนึ่งในมาตรการที่เวปไซค์ขายของระดับคุณภาพหลายๆ เวป คือเรื่องของการสมัครสมาชิกเวปไซค์นั้นๆ เช่น ebay ด้วยบัตรเครดิต

แล้วสมัครด้วยบัตรเครดิต ???
อันดับแรก ก็ต้องมาที่จุดเริ่มต้นก่อน บางคนยังไม่รู้เลยว่าบัตรที่มีอยู่ในมือเค้าเรียกว่าบัตร credit หรือ บัตรเดบิต
flash
Be1stSmartCard_MPic
.... บัตรเดบิตนั้น ง่ายๆ คือ บัตรที่อิงอยู่กับสมุดบัญชีออมทรัพย์เล่มนั้นๆ แล้วแทนที่เราจะต้องไปธนาคารเพื่อกรอกเอกสารสำหรับขอถอนเงินในแต่ละครั้งออกจากบัญชีออมทรัพย์ของเรา เราก็มาใช้วีธีที่สะดวกขึ้น เพียงแค่เอาบัตร เดบิต หรือ ที่เรียกกันติดปากว่าบัตร ATM (บางธนาคารมีชื่อเรียกว่า k web คือบัตร เดบิต -บัตรกดเงินสดทาง internet หรือ บัตร Be 1st) มากดเงินออกจากตู้ ATM ที่เราเห็นกันอยู่ทั่วไป

31-03-55-03
.... ส่วนบัตรเครดิต คือบัตรที่เราไปทำการขออนุญาตใช้วงเงินจำนวนหนึ่งจากธนาคารที่เราทำเรื่องยื่นขอ เช่น เราได้รับอนุมัติจำนวนวงเงินจากธนาคารแห่งหนึ่งให้ใช้ได้เดือนละ 10,000 บาท เราก็ใช้บัตรนั้น รูดซื้อสินค้าที่เค้าเตอร์ (แทนการควักเงินสดในกระเป๋าออกมาจ่ายแทน) เช่นเจอรองเท้ากีฬาสวยๆ ในห้าง central เราก็เอาบัตรนี้รูดตรงเคาเตอร์ที่จ่ายเงินของห้างนั้น
...... ที่สำคัญ ในระดับสากล ถือว่าบัตรเครดิตนั้น ถือเป็นบุคคลอันมีความน่าเชื่อถือในระดับทางการเงิน เนื่องจาก การจะได้มาซึ่งการอนุมัติวงเงินให้เอาไปใช้ได้นั้น จะมีกระบวนการและเหตุผลที่ต้องได้รับการรับรองจากเจ้าหน้าที่ธนาคารหลายขั้นตอนพอสมควร รวมถึงมีการได้รับการพิจารณาวงเงินที่ให้ใช้ได้ตามสมควรของหลักการทางการเงิน .. บัตรเครดิต จึงมีความน่าเชื่อถือของที่มาที่ไปสูงกว่าบัตรเดบิต (หรือบัตร ATM)

แล้วผลที่ตามมาหากใช้บัตร เดบิตสมัครสมาชิก ???
          อันดับแรก มาที่กฎของไทยเราเองก่อน กฏของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ไม่อนุญาตให้ บัตรเดบิตซื้อสินค้าในสกุลเงินต่างประเทศ .. ในปีนี้ หลายธนาคารในประเทศไทยจึงเริ่มไม่อนุญาตให้ใช้บัตรเดบิต เพื่อทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ เช่น เวป ebay เพราะทำตามกฏของธนาคารแห่งประเทศไทย
          กฏหลักของการค้าขายในเวปที่มีมารตฐานสูงทุกเวปตอนนี้ คือ ผู้ขายต้องสมัครด้วยบัตรเครดิต ส่วนบัตร บัตรเดบิต หรือ ที่เราเรียกง่ายกันว่า บัตร ATM ใช้สมัครไม่ได้ค่ะ(ตัวอย่างบัตร ATM เช่น K-web หรือ Be 1st)
          ดังนั้น หากเราใช้บัตรเดบิตสมัคร ebay และ paypal ยังไงก็ซื้อของใน ebay ลำบากอยู่แล้ว ด้วยกฏของธนาคารในไทยเองที่เริ่มทำตามกฏของธนาคารแห่งประเทศไทย อาจจะซื้อได้แค่ไม่กี่รายการ ก็อาจโดนระงับการซื้อหากจ่ายเงินด้วยบัตรเดบิตแล้ว
          ผลต่อมา ... คุณอาจจะมองว่า สมัคร ebay ด้วยบัตรเดบิต (อย่าง K-web หรือ Be 1st ) ไปแล้ว account ใน ebay ยังไม่เห็นโดนปิด account เลย
.. ขอย้ำว่า ebay จะปิดทันทีค่ะ ถ้าลงขายสินค้า และยิ่งถ้าสมัครเปิดปุ๊บ แล้วลงขายสินค้าปั๊บ .. โดนปิดภายในเวลาไม่เกิน 2-3 ชม. .. หุหุ .. ของแบบนี้ ไม่เชื่อ แต่อย่าหลบหลู่กันเชียว .. เพราะอาจต้องมานั่งเสียวๆ ไม่ได้คืน account มาก็ได้

หลายคนสงสัยว่า อ้าวแต่เห็นในหนังสือที่ขายตามห้างหลายเล่ม ยังบอกให้ใช้บัตรเดบิต สมัครได้อยู่เลย???
          ต้องบอกว่า กฎระเบียบนี้ หลายๆ เวปไซค์เคยปล่อยมาระยะนึง หรือ ไม่ได้เขียนกฏนี้ขึ้นมา (โดยเฉพาะกับคนไทยและเอเชีย) ซึ่งการปล่อยให้คนมาสมัครเป็นสมาชิกเวปโดยบัตรเดบิตนั้น สมัครง่าย แต่เวลาเกิดปัญหา นั้นตามตัวมารับผิดชอบยาก เช่นผู้ซื้อโดนผู้ขายโกง หรือ ผู้ซื้อได้ของก๊อปปี้ จากการซื้อสินค้าในราคาที่ไม่ใช่จากผู้ขาย ebay หรือ เจ้าของเวปไม่สามารถติดตามหาหลักฐานได้เป็นมั่นเป็นเหมาะในการตามจับได้ และพอปล่อยเอาไว้ ก็ยิ่งมีคนเห็นช่องว่างนี้มาทำมากขึ้นๆ จนเกิดปัญหามากมาย … นั่นจึงเป็นเหตุให้เมื่อประมาณเกือบ 2 ปีที่แล้ว ทางเจ้าของเวปไวด์หลายๆ เวป หันมาเข้มงวดกับมาตราการที่ต้องใช้บัตรเครดิตสมัครเป็นสมาชิกเวปไซด์
…. วันนี้ก็ได้แนะนำข้อมูลควรเบาๆ กันเท่านี้ก่อน .. .. ฉะนั้น หากอยากขายใน ebay ก็ต้องสมัครด้วยบัตรเครดิต ไม่อย่างนั้น หากฝืนไป จะทำให้ account เราโดนปิด ข้อหาทำผิดกฎหลักของเค้า .. กฏนี้ของเค้าขลังจริงๆ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่เชียวน๊า =D

สำหรับคนที่ไม่มี Statement ไม่ได้ทำงานประจำ ไม่มีสลิปเงินเดือน สามารถทำบัตรเครดิตโดยใช้เงินฝากประจำค้ำประกันได้ค่ะ คลิกที่นี่ 

วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556

5 นิสัยเสีย ยอดนิยม ของ “คนเกือบรวย”

          เคยรู้สึกมั้ยครับว่าไม่ว่าเราจะขยันหาเงิน เก็บเงิน และปลูกเงินแค่ไหน ต้นเงินของเราก็ไม่ค่อยงอกงามอย่างที่ตั้งใจไว้ซักที กว่าจะหาเงินก้อนหนึ่งได้ก็แสนลำบาก แต่พอหามาแล้วก็จะมีเรื่องให้ต้องใช้เงินทุกที เก็บเงินไม่เคยอยู่เลย

อยากรู้มั้ยครับว่าทำไม?

          จากที่ได้ศึกษาและเฝ้าสังเกตบุคคลหลายประเภท ทั้งที่ประสบความสำเร็จทางด้านการเงินในระดับโลก เช่น Warren Buffett หรือ Donald Trump มหาเศรษฐีและนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในเมืองไทย รวมถึงเพื่อนๆของผมที่มักจะมีปัญหาและบ่นโอดครวญเรื่องเงินกับผมอยู่เรื่อย (และถ้าผมเผลอ มันชอบยืมตังค์ผมด้วยครับ) ผมได้เรียนรู้บทเรียนที่น่าสนใจหลายข้อจากความแตกต่างเหล่านั้น และผมก็กลัวว่าถ้าเก็บไว้ใช้คนเดียวมันจะเน่าเสียก่อน เลยนำมาแบ่งกันให้แฟนๆ Road to Billion ฟัง

5 นิสัยเสียยอดนิยมของพวก “เกือบรวย”

1. ขี้เกียจ ไม่ขวนขวายที่จะเรียนรู้ ไม่ยอมที่จะลงทุนลงแรงในการเสริมเติมความรู้ให้ตัวเอง มักจะบอกกับตัวเองว่า “เราไม่มีเวลา” “ความรู้พวกนี้มันไม่จำเป็นหรอก” หรือไม่ก็ “รู้ไว้แล้วทำอะไรได้??”

2. โลภอย่างไม่มีเหตุผล คนพวกนี้มักจะชอบการพนันเป็นชีวิตจิตใจ อาจจะพนันในหลายรูปแบบตั้งแต่หวย ฟุตบอล หรือแม้กระทั้งเล่นหุ้น อยากรู้ว่าการพนันแตกต่างกับการลงทุนอย่างไรอ่านได้ในบทความนี้ครับ http://on.fb.me/qwtmav

3. บริหารเงินไม่เป็น ชอบใช้ก่อนแล้วค่อยเก็บทีหลัง สุดท้ายก็ไม่มีเงินเหลือเก็บอยู่ดี คนพวกนี้ชอบใช้ของฟุ่มเฟือยและมักชอบซื้อของตามเพื่อน เห็นเพื่อนมี iPhone iPad iPood ไม่ได้ จะรู้สึกอิจฉาตาร้อนและจะหาเหตุผลดีๆในการซื้อของให้ตัวเองอยู่เรื่อย ส่วนตัวผมลองบริหารเงินมาหลายวิธีแล้ว พบว่าวิธีนี้ดีที่สุดเลยครับ http://on.fb.me/mDfB1Y

4. ไม่มีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน คนเหล่านี้ก็ไม่ต่างอะไรกับนักเดินป่าที่ลืมเอาเข็มทิศติดตัวไปด้วย การขาดเป้าหมายก็อาจจะหมายถึงการขาดแรงจูงใจที่ดีพอ คนที่ประสบความสำเร็จทางการเงินนอกจากคนพวกนี้จะมีเป้าหมายที่ชัดแล้ว เค้ายังมีตอบตัวเองได้อย่างฉะฉานอีกด้วยว่า “ทำไมเค้าถึงต้องรวย”  (ไม่ใช่แค่ “อยากรวย” นะครับ คนอยากรวยมีเยอะครับแต่คนที่ “ต้องรวยให้ได้” มีไม่ถึงหยิบมือ) แล้วคุณอยากจะมีเท่าไหร่ครับ? ซักพันล้านพอมั้ยครับ? อ่านคำตอบได้ในนี้ครับ http://on.fb.me/ohuQ1G

5. เป็นคนขี้บ่นและมักชอบต่อว่าคนรวยคนอื่นๆ อยากให้ลองคิดตามครับว่า “ถ้าเราเกลียดแล้วเราจะเป็นคนรวยได้อย่างไรครับ?” สื่อส่วนมาก (โดยเฉพาะละครหลังข่าว) มักจะสร้างภาพให้คนรวยต้องเลว ต้องเป็นนักการเมืองที่โกงเค้ามา หรือไม่ก็เป็นพวกมาเฟียที่ชอบฆ่าปิดปาก สมองของเรารับภาพเหล่านี้เข้ามาเก็บไว้ในจิตใต้สำนึกของเราโดยไม่รู้ตัว ไม่มีใครที่อยากจะเป็นมาเฟียหรือนักการเมืองโกงๆหรอกครับ (ยกเว้นคนบางกลุ่มที่คุณก็รู้ว่าใคร) สมองจะบอกกับเราว่าถ้าอยากเป็นคนดีต้องไม่รวย ถ้ารวยแปลว่าเลว อืม.. แปลกแต่จริง

          ผมต้องยอมรับก่อนเลยว่าผมยังทำสิ่งเหล่านี้อยู่ ในหลายครั้งผมกระทำความผิดมากกว่าหนึ่งข้อ (โดยเฉพาะข้อสุดท้าย) แต่อย่างน้อยการรู้จักตัวเอง รู้ถึงปัญหาและที่มาของมันก็จะทำให้เราสามารถต่อสู้กับนิสัยเสียของ “คนเกือบรวย” เหล่านี้ได้

คุณล่ะครับมีนิสัยเสียๆแบบนี้กันคนกี่ข้อ??

ถ้าอยากจะอ่านเกี่ยวกับจิตวิทยาทางการเงิน การลงทุน และเศรษฐกิจ เข้าอ่านเพิ่มเติมในหน้า Road to Billion ได้นะครับwww.facebook.com/roadtobillion

Credit: Road to Billion / August 23, 2011 at 10:08pm

 

word 40

วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ทำไม dropship จึงดังใน ebay และ e-commerce

          ก่อนจะเข้าสู่คำว่า dropship คืออะไร เป็นยังไงนั้น เราลองมาดูภาพกว้างก่อน เริ่มจากโลกแห่งการค้าขาย ในโลกกลมๆ ใบนี้ มีผู้ที่เกี่ยวข้องคร่าวๆ อยู่ คือ ผู้ผลิต หรือ เรียกว่า supplier ก้ได้ ต่อมาก็คือ ผู้จำหน่าย ต่อมาก็ ผู้ทำช่องทางสำหรับค้าขาย ที่ให้ผู้ขายและผู้อยากซื้อมาเจอกัน หรือเรียกว่า place / channel เช่น ห้าง Union Mall, Central, The Mall หรือ หากเป็นในโลกออนไลน์ก็เช่น ebay.com, facebook.com, IG หรือ Lazada.com ต่อมา สุดท้ายที่ขาดไม่ได้ คือ ลูกค้า
          โดยบุคลิกภาพรวมของผู้ผลิตนั้น มักจะทำการควบคุมสายการผลิต และผลิตในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ หากผู้ผลิตนั้นๆ มีช่องทางที่ได้ลูกค้าประจำและซื้อล็อคใหญ่ๆ ได้ยิ่งดี จะได้ผลิตเฉพาะสินค้าตัวนั้นๆ ป้อนให้กับลูกค้ารายนั้นๆ เต็มที่อย่างเดียว ซึ่งแค่การควบคุมสายการผลิตและต้นทุนการผลิตนั้น เจ้าของโรงงานหรือผู้ผลิตก็ปวดหัวอยู่แล้ว และยิ่งนับวันการแข่งขันยิ่งสูง ลูกค้าที่ซื้อล็อตใหญ่ประจำอาจมีโอกาสหลุดไปอยู่ในมือคู่แข่งเมื่อไหร่ก็ได้ ผู้ผลิตหลายๆ ราย เลยเริ่มมองหาช่องทาง / channel กระจายสินค้าด้วยวิธีอื่นๆ เพื่อ ทั้งเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย แถมมีรายได้ทางอื่นเป็นหลักประกันภัยไว้อีกทางนึง เจ้าของโรงงานบางแห่งเริ่มมองหา sale Freelance และ บางคนมองเห็นโอกาสจากโลกออนไลน์ อยากขายของในโลกออนไลน์แทบตาย แต่กลับไม่มีเวลามาศึกษาหาความรู้จริงๆ จังๆ ซักที
 
ทำไงดีล่ะ?? เมื่อผู้ผลิต อยากขยายช่องทางขายของในโลกออนไลน์อย่าง ebay.com
          เมื่อเห็นว่า ebay.com มีสมาชิกอยู่มากกว่า 400 คนทั่วโลก ผู้ผลิตหลายรายก็มองเห็นโอกาสทางการตลาด แถม เห็นว่า ebay.com เป็นเวปที่มีความน่าเชื่อถือ แถมอยู่มานานหลายสิบปี ก็ยิ่งอยากเปิดโอกาสทางการตลาดมากขึ้น แต่แค่เอาเวลาไปคุมลูกน้องในโรงงาน คุมสายการผลิต คุมต้นทุนการผลิต ก็แทบไม่มีเวลาล่ะ
        และแล้วก็มีคนผู้นึง (สมมติ ให้เหมือนเล่านิทานล่ะกันนะ) ขายของใน ebay มาระยะหนึ่ง อยากขยาย line สินค้าที่ขายอยู่ แล้วก็เผอิญรู้ว่า มีโรงงานซึ่งผลิตสินค้าออกมาเป็นที่ต้องการของลูกค้าเค้าพอดี เค้าก็ลองแนะนำตัวว่าเค้าเป็นผู้ขายของอยู่ใน ebay.com นะ ขายดีอยู่ด้วย สนใจจะเอาสินค้าของเฮียเจ้าของโรงงานผลิตนี้ไปลงขายสินค้า เฮียสะดวกใจมั้ย .. และแล้วเฮียเจ้าของโรงงานก็ รู้สึกว่าเหมือนมีฟ้ามาโปรด อยู่ๆ ก็มีคนมาเสนอขอเอาสินค้าเราไปขายให้ ประหนึ่งเป็น sale ขายของให้เรา โดยเราไม่ต้องลงทุนจ้าง .. อาเฮียเจ้าของโรงงานก็ยินดีต้อนรับคนผู้นั้นและทำข้อตกลงกันบางอย่าง
          คนขายสินค้าใน eBay จึงได้สินค้าเพื่อขายเพิ่มขึ้น พร้อมๆ กับโรงงานของอาเฮียก็มีช่องทางขายเพิ่มขึ้น
 
แล้วทำไมคนซื้อไม่ติดต่อขอซื้อไปยังโรงงานเองโดยตรงล่ะ??
          ลองนึกภาพว่าถ้าเราไปอยู่ในอเมริกา แล้วอยู่นอกชานเมืองออกไป หิมะกำลังตกหนัก วันนั้นคิดถึงบ้านที่เมืองไทยมากๆ ใจเลยนึกอยากกิน มาม่ารสต้มยำกุ้ง เราต้องโทรหรือ e-mail ไปขอซื้อจากโรงงานสหพัฒนพิบูลย์ จำกัด เองหรือไม่ เพื่อให้เค้าจัดส่งมาม่ามาให้เราซักซองที่อเมริกา หรือ เราจะฝ่าหิมะหนาเตอะ ออกไปเพื่อซื้อมาม่ามากินให้หายคิดถึงเมืองไทย
         ดังนั้น เมื่อเราเป็นสมาชิกในเวป ebay.com เราก็กดค้นหาสินค้าในเวป แล้วเมื่อเจอคนขายที่มีความน่าเชื่อถือหน่อย เราก็ซื้อกับเค้าแล้วรอแค่ 7-12 วันข้างหน้าเราก็ได้กินมาม่าในราคาไม่แพงมาก (สินค้าบางรายการใน ebay ขายได้ราคาดีกว่าขายในเมืองไทย แต่ก็ยังราคาต่ำกว่าที่ซื้อในห้างของเมืองนอก)
 
สรุปว่า Dropship คืออะไรล่ะ???
dropshipper1-vert

Dropship ประกอบด้วย ผู้เกี่ยวข้อง 4 ส่วน
          Dropship จึงหมายถึง การที่ผู้ขายสินค้าในเวปนึง เช่น ebay.com ได้นำภาพสินค้าและรายละเอียดของสินค้าจากผู้ผลิต มาลงขาย โดยผู้ขายนั่งกินกำไรส่วนต่างจากราคาต้นทุนที่ได้จากผู้ผลิตและราคาที่ตนเองขายได้ในหน้าเวป เช่น เราได้ราคาต้นทุน สำหรับกุ้งอบวุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูป มาจากโรงงานอาเฮียท่านนึง(Dropshipper)  ในราคา 30 บาท (=1USD) และอาเฮียก็คิดคำนวณค่าขนส่งไปเมืองนอก สำหรับทุกประเทศใน rate เดียวกันคือ ซองละ 30 บาท (=1USD) แล้วเราเอาไปลงขายใน ebay.com ในราคา 5USD (=150 บาท) พอถึงเวลาเมื่อมีคนมาสั่งซื้อสินค้าในเวป ebay.com ที่หน้าร้านเรา เราก็เก็บเงินไว้เรา 3 USD (=90 บาท) แล้วทำการสั่งซื้อ สินค้ารายการเดียวกันนี้ไปยังอาเฮียเจ้าของโรงงานพร้อมแจ้งให้อาเฮีย จัดส่งสินค้าให้ลูกค้าเรา โดยมีข้อแม้กับอาเฮียว่า ทุกครั้งที่สั่งซื้อและส่งให้ลูกค้าเรา ต้องไม่ใส่ invoice หรือ ราคาขายต้นทุนไปลูกค้าด้วย
         เมื่ออาเฮียเจ้าของโรงงานจัดส่งให้ลูกค้าเราแล้ว เราก็มาแจ้งให้ลูกค้าเราว่าของส่งแล้วเมื่อวันที่ นี้นี้.... ก็ถือเป็นอันจบกระบวนการ
 
ดูยุ่งยากยังไงไม่รู้ แล้ว dropship มีข้อดียังไงบ้างล่ะ??
  1. เราไม่ต้องมานั่งควบคุมการผลิตเองทั้งหมด และความคุมต้นทุนการผลิต บางคนมีความเด่นในเรื่องการผลิต บางคนเด่นในเรื่องการขาย เด่นคนละด้าน ใครเด่นด้านไหน ดูแลด้านนั้น ประมาณนี้ดีกว่า
  2. เราไม่ต้องเครียดกับการควบคุม บริหารจัดการเรื่อง stock สินค้า เพราะแทบไม่มีสินค้าอยู่ในมือเราเลย
  3. เราอาจไม่ต้องเสียเวลา ถ่ายรูปและทำคำอธิบายลักษณะสินค้าเองเลย แค่ทำในสิ่งที่เราคุ้นเคยเมื่อตอนเรียนหนังสือ แต่ตอนนี้เราเอามาใช้ให้ถูกทาง คือ การลอก copy ไง
  4. เราก็ไม่ต้องเสียเวลานั่งแพ็คของเอง ส่งของเอง ..
  เหมือนจะมีข้อดี แล้วข้อเสีย หรือ ข้อควรระวังล่ะ มีไหม??
          ข้อควรระวังอันดับแรก คือการคัดคุณภาพ supplier หรือ ผู้ผลิต ที่ต้องมีคุณภาพ มีความน่าเชื่อถือได้ เราสามารถวางใจได้ในระดับที่สูงพอสมควร ต่อมาอาจเป็นเรื่องของคุณภาพการจัดระบบ stock สินค้าของ supplier หรือ ผู้ผลิต ที่เราต้องคอยเช็คอยู่บ่อยๆ เพราะถ้า supplier หรือ ผู้ผลิต ที่ไม่มีคุณภาพมาทำหน้าที่ dropship ให้เรา นั่นอาจหมายถึง ของที่ไม่มีคุณภาพอาจส่งไปถึงมือลูกค้าเราได้ และเราอาจโดนลูกค้าตำหนิ เรื่องสินค้า จนอาจต้องรับผิดชอบในการคืนเงินให้แก่ลูกค้าไป
          ฉะนั้นการทำ dropship ควรศึกษาจากผู้รู้หรือผู้ที่มีประสบการณ์มากๆ ในโลกการค้าออนไลน์ และมีประสบการณ์ทำ dropship มา จะเป็นการดียิ่ง เพื่อลดความเสี่ยงธุรกิจออนไลน์ของเราได้
          และนี่คือ เรื่องราวของคำว่า Dropship และขอย้ำว่า Dropship คือโลกออนไลน์ที่โด่งดังมากพอสมควรในเวลานี้ (โดยเฉพาะในสิงคโปร์) แต่การจะทำ Dropship ได้ควรมีผู้รู้จริงมาช่วยลดความเสี่ยงของธุรกิจคุณจะดีกว่า


****************************

--------------------- ---------------------- ----------------------
...พบเทคนิค การซื้อ - ขายสินค้า
ใน eBay อย่างไรให้รวย!...
..พบคอร์ส "อบรม อีเบย์ eBay เบื้องต้น" ฟรี!!...

ทุกวันเสาร์ 2 รอบ เวลา 9:00 น. , 14:00 น. 

สถานที่ : ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 3 อาคารเจเจเอ้าท์เล็ท 
ตรงข้ามห้างเจเจมอลล์ ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน MRT กำแพงเพชร

สำรองที่นั่งด่วน รับจำนวนจำกัด

090-8891750 , 089-1105477

วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556

วิธีการสมัคร PayPal ด้วยบัตรเครดิต


     ครั้งก่อนเราสอนการสมัครอีเบย์ กันไปแล้ว วันนี้มาต่อด้วยการเปิดบัญชี Paypal ด้วยบัตรเครดิต เริ่มต้นจากเตรียมข้อมูลบัตรเครดิตให้พร้อม แล้วเปิดเวปไซต์  www.paypal.com ขึ้นมาเลยค่ะ ในบทความนี้ขอใช้เมนูเป็นภาษาอังกฤษนะค่ะ  คลิกปุ่ม Sign Up
PayPal คือ อะไร? คลิกที่นี่
รูปภาพ7

เลือก Thailand  และ คลิก Get Started  ในช่อง Premier
รูปภาพ8
กรอกข้อมูลลงไปให้ครบทุกช่อง
รูปภาพ9
รูปภาพ10
กรอกรหัสตามที่เห็นในภาพ
รูปภาพ11
กรอกข้อมูลบัตรเครดิต คลิก Continue
รูปภาพ12
เมื่อเสร็จแล้วให้กลับไปที่ My Account
รูปภาพ13
คลิกที่ confirm email address
รูปภาพ14
PayPal จะแจ้งให้เราไปเช็ค email ตามที่เราสมัครไว้
รูปภาพ15
จะมี email ใหม่มาตามภาพเปิดเข้าไปดูได้เลยค่ะ
รูปภาพ16
จากนั้นมาคลิกที่คำว่า Activate My Account
รูปภาพ17
เมื่อลิงค์กลับมาที่ PayPal  เขาจะให้เราใส่รหัสผ่านของ paypal อีกครั้งเพื่อยืนยัน
รูปภาพ18
เมื่อยืนยัน email เรียบร้อยแล้ว
Paypal จะให้เราเลือกคำถาม และคำตอบ เพื่อใช้ในการยืนยัน หากเราลืม Password 
กรุณาจดข้อมูลเหล่านี้ไว้ด้วยนะคะ
รูปภาพ19
เรียบร้อยแล้วค่ะ ตอนนี้เราก็มีบัญชี PayPal เรียบร้อยแล้ว
รูปภาพ20
***************************************
--------------------- ---------------------- ----------------------
...พบเทคนิค การซื้อ - ขายสินค้า
ใน eBay อย่างไรให้รวย!...
..พบคอร์ส "อบรม อีเบย์ eBay เบื้องต้น" ฟรี!!...

ทุกวันเสาร์ 2 รอบ เวลา 9:00 น. , 14:00 น. 

สถานที่ : ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 3 อาคารเจเจเอ้าท์เล็ท 
ตรงข้ามห้างเจเจมอลล์ ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน MRT กำแพงเพชร

สำรองที่นั่งด่วน รับจำนวนจำกัด

090-8891750 , 089-1105477

บทความที่ได้รับความนิยม

เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
อาคารเจเจเอาท์เลท ชั้น 3 ถ.กำแพงเพชร 2, ภาคกลาง, Thailand
สถาบันฝึกอบรมการสร้างธุรกิจส่งออกด้วยระบบออนไลน์แบบครบสูตร ผ่านเว็บขายสินค้า อีเบย์ ด้วยการสอนที่แตกต่าง และเน้นให้ท่านทำได้จริง-เห็นผลเร็ว โดยอาจารย์ผู้ผ่าน certified เป็น Instructor จาก Ebay USA (eBay Education Specialist) รวมถึงทีมอาจารย์ ที่พร้อมจะมาเป็นโค้ชใ ห้คำแนะนำแก่ท่านตลอดการอบรม

บรรยากาศการเรียน

บรรยากาศ workshop

ตารางอบรมสำหรับนักเรียนของ ชมรมคนรักอีเบย์

เนื้อหา ความรู้ และกิจกรรมในช่วงระยะเวลา 6 เดือน

- วันแรกของการเรียน จะเป็นการเรียนรู้แนวคิด และเทคนิคที่สำคัญ เช่น

· เทคนิคการค้นหาสินค้า และการวิเคราะห์หาสินค้าขายดี เมื่อจบวันนี้จะได้รายชื่อสินค้าขายดีจำนวนมาก

· เทคนิคการตั้งราคาสินค้า

· เทคนิคการเขียนคำอธิบายสินค้าให้ถูกใจลูกค้า และติดอันดับดีๆ

· แนวคิดในการดูแลลูกค้า รวมทั้งการจัดการเมื่อเกิดปัญหากับลูกค้า

· Drop Ship เบื้องต้น

· การแก้ไขปัญหาสำหรับการลงทะเบียนเปิดบัญชีต่างๆ

· เมื่อจบวันแรก ผู้เรียนจะได้รายชื่อสินค้าขายดี รวมทั้งแนวคิดและเทคต่างๆ ที่สามารถนำไปเริ่มใช้ได้ทันที

- วันที่ 2 จนกระทั่งครบ 6 เดือน ในช่วงนี้จะเรียกว่าการ Workshop เป็นการเรียนแบบฝึกปฏิบัติจากงานจริง โดยมีทีมงานของอาจารย์คอยให้ทำปรึกษา และช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ ดังนี้

· การลงทะเบียนเปิดร้าน, ลงทะเบียน Paypal สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน หรือผู้ที่ติดปัญหาจากวันแรก

· การให้คำปรึกษาในการแก้ไขปัญหาต่างๆ สำหรับบัญชีเก่าที่เกิดปัญหา

· การให้คำปรึกษาในการแก้ไขปัญ Suspend, Limit ในการลงสินค้า

· สอนหรือแนะนำการบรรจุ และห่อสินค้าที่จะจัดส่งให้ลูกค้า

· ให้คำปรึกษาในการจัดส่งสินค้าที่ประหยัดที่สุด สำหรับสินค้าแต่ละชนิด

· เรียนซ้ำ หรือทบทวนเทคนิค หรือแนวคิดต่างๆ ที่ยังไม่เข้าใจในวันแรก

· สอนเทคนิคการถ่ายภาพสินค้าให้สวย

· สอนเทคนิคการตกแต่งรูปภาพ

· กิจกรรมพาทัวร์ซื้อสินค้าเพื่อนำไปลงประมูลขาย สำหรับมือใหม่

· สอนทบทวน Drop Ship เบื้องต้น

· สอนการทำ Drop Ship ขั้นสูง และเทคนิคการหาสินค้าและ Supplier ผู้ผลิตสินค้า

· สอนเทคนิคการโปรโมทสินค้า สำหรับผู้ประกอบการที่นำสินค้าเข้ามาขายภายในประเทศ

· Update เทคนิคหรือความรู้ใหม่ๆ

· การให้คำปรึกษา แก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่านักเรียนทุกคนจะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว

ฯลฯ


** ชมรมคนรักอีเบย์ เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น. ยกเว้นวันพฤหัสบดี **

ภาคปฏิบัติที่เปิดสอนทุกวัน
10.30 – 12.30 ลงทะเบียน
eBay&PayPal + ซื้อสินค้าชิ้นแรก

13.30 – 15.30 เก็บข้อมูลลูกค้า + Packing

15.30 – 17.30 ลงสินค้าชิ้นแรก + ถ่ายรูป

Calendar Workshop Ebay Lover Club