ตรงข้ามห้างเจเจมอลล์ ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน MRT กำแพงเพชร
อบรม eBay อีเบย์เบื้องต้น ฟรี!! สอนการขายสินค้าออนไลน์ บนเว็ปไซต์อีเบย์ 090-8891750
วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555
กลยุทธ์ 5P สูตรสำเร็จธุรกิจนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ใหม่
ตรงข้ามห้างเจเจมอลล์ ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน MRT กำแพงเพชร
วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555
สินค้าประหลาด ที่ขายใน eBay
9 สินค้าประหลาด ที่ขายอยู่ใน eBay ใครที่ชอบสะสมของแปลก หรือมีสะสมไว้ ลองเอามาขายดูสิค่ะ แล้วคุณจะรู้ว่า อีเบย์ ขายได้ทุกอย่างจริงๆ
1. เท้าของทหาร
มันคือเท้าของทหารที่โดนตัดในขณะที่ติดเชื้อระบาด ในยุคสงครามกลางเมือง แต่มันโดนสต๊าฟเอาไว้แล้ว ราคา $39.99 เค้าบอกว่าราคานี้รวมค่าจัดส่งแล้ว
2. กระดาษชำระหน้าโอบาม่า
หากคุณต้องการกระดาษที่ไม่เหมือนใคร เราของเสนอกระดาษชำระหน้าโอบาม่า ราคาไม่แพงเท่าไหร่แค่ $5.94 เท่านั้น
3. โมเดลเป็ด
ทีคุณนี้มันเป็นโมเดลเป็ด แต่มันคือลูกเป็ดของจริงต่างหากล่ะ มองๆไปมันอาจดูธรรมดาๆ แต่ทายสิราคาเท่าไหร่ … ก็ไม่เท่าไหร่หรอก แค่ $21.50 เท่านั้นเองจ้า
4. คาถาวูดู
คาถาวูดูเป็นคาถาที่มีความศักดิ์สิทธิ์ สำหรับคนที่กำลังมองหาความรัก หรือให้คนต้องมนต์ หรือทำเพื่อการแก้แค้น ต้องรีบหาซื้อเลย เพราะมันจะทำให้คุณสมหวังทุกประกาศ (ที่ประเทศเค้าเชื่อกันแบบนั้น) ไม่แพงด้วย แค่ $8.87
5. ขวด
มันไม่มีอะไรจริงๆ เป็นเพียงแค่ขวดที่อัดลมตดเข้าไปก็แค่นั้น แต่ราคานี้สิแพงเอาเรื่องอยู่ ราคาถึง $27.52 เชียว แล้วใครล่ะจะกล้าซื้อไปดมชมชอบกับกลิ่นตด ??
6. แหวนปีศาจผีสิง
ไม่รู้ผีสิงในแหวนจริงหรือเปล่า แต่ราคามันไม่ใช่เล่นเลย มีราคาถึง $165 เชียว เค้าว่ากันว่ามันมีพลังอำนาจด้านมืดที่คุณสามารถใช้งานมันได้
7. ตัวอ่อนของปลาฉลาม
จริงๆแล้วมันก็คือ ปลาฉลามเด็กนั้นเอง โดยคนขายจับปลาที่ตายแล้วมาดอง เพื่อรักษาสภาพของผิวหนังเอาไว้ ราคาอยู่ที่ $42.99
8. กางเกงในยักษ์ของแกรนนี่
เท่าที่เคยเห็นมา มันคือกางเกงในที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ราคาอยู่ที่ $14.99 เมื่อคุณใส่มันเรารับประกันเสียงหัวเราะเลยว่าเกิน 100% แล้วคุณละสนใจสินค้าชิ้นนี้หรือเปล่า
9. ตุ๊กตาผีสิง
ผู้ขายอ้างว่า ตุ๊กตาตัวนี้มีวิญญาณเด็กสิงอยู่ มันเคยเป็นของเด็กออทิสติกคนหนึ่ง และถูกทิ้งไว้ในบ้านถึง 7 ปี ราคาอยู่ที่ $24.95
ที่มา : teen.mthai
วันพุธที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555
บริหารหน้าร้านออนไลน์แบบไหน.. ถึงจะเรียกว่าครบครัน
ธุรกิจขายของผ่านช่องทางออนไลน์กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะทุกวันนี้อินเตอร์เนตแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนไปแล้ว และการซื้อของทางอินเตอร์เนตก็ค่อยๆ กลายมาเป็นเรื่องปกติสำหรับคนในยุคนี้ไปแล้วเช่นกัน จึงไม่แปลกเมื่อร้านขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวัน ทั้งผ่าน facebook เว็บบอร์ด หรือเว็บไซต์ ร้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องสำอาง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้านก็มี เมื่อร้านเพิ่มขึ้นก็เท่ากับว่ามีผู้ประกอบการมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เมื่อการแข่งขันเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ผู้ประกอบต่างก็ต้องหาวิธีการเพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งบางครั้งการบริหารงานง่ายๆ ต่อไปนี้ก็สามารถช่วยเพิ่มลูกค้าได้เช่นกัน
โทรศัพท์มือถือหรือไอแพด ทั้ง Social Media ทั้งแอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น facebook หรือ LINE ก็ช่วยให้การติดต่อทำได้เร็วกว่าเดิม
ผู้ประกอบการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ควรเปิดช่องทางไว้ให้ลูกค้าติดต่อได้สะดวกรวดเร็วเสมอ เพราะนอกจากจะช่วยให้การขายดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วแล้ว การทำตัวให้ติดต่อได้ง่ายยังช่วยในเรื่องของความน่าเชื่อถือ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพ่อค้าแม่ค้าร้านนี้มีตัวตนจริงๆ ไม่อุปโลกน์ร้านออนไนล์ขึ้นมาหลอกเงิน และด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ทั้งเครื่องมือ เช่น โทรศัพท์มือถือหรือไอแพด ทั้ง Social Media ทั้งแอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น facebook หรือ LINE ก็ช่วยให้การติดต่อทำได้เร็วกว่าเดิม และยังสะดวกกับทั้งแม่ค้าและลูกค้าอีกด้วย หากผู้ประกอบการลองใช้สิ่งเหล่านี้เข้ามาช่วยเรื่องช่องทางติดต่อ ก็จะได้เปรียบร้านค้าที่ยังรับออเดอร์ผ่านอีเมลเท่านั้นอย่างแน่นอน
สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ การมีช่องทางรับเงินเพียงทางเดิยวอาจสะดวกสบายเรื่องการเช็กยอดเงินมากกว่าการมีหลายบัญชี แต่สำหรับลูกค้าแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น บางครั้งธนาคารที่ลูกค้าใช้เป็นประจำอาจไม่ใช่ธนาคารที่ผู้ประกอบการเปิดบัญชีไว้เพื่อรับเงินก็ได้ ทำให้ลูกค้าอาจต้องเดินทางเพิ่มมากขึ้นเพื่อไปธนาคาร อาจต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามธนาคารหากลูกค้าโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มหรือธนาคารออนไลน์ ซึ่งนั่นเเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายอีกด้วย ซึ่งการที่ผู้ประกอบการมีบัญชีธนาคารไว้หลายๆ แห่งเพื่อรองรับการชำระเงิน ก็จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น และหากมีการรับชำระผ่านบัตรเครติดเพิ่มเข้ามาด้วยก็จะยิ่งช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้เร็วขึ้นกว่าเดิมด้วย
เป็นเรื่องปกติที่เมื่อลูกค้าจ่ายเงินแล้วก็มักจะต้องการของให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ดังนั้นหากผู้ประกอบการส่งสินค้าให้ลูกค้าได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้มากเท่านั้น ลองคิดดูในมุมลูกค้า หากเราจ่ายเงินวันนี้ตอนเช้า และพรุ่งนี้ตอนบ่ายเราได้รับสินค้าเลย เราจะรู้สึกดีแค่ไหน ดังนั้นเมื่อลูกค้าจ่ายเงินแล้ว ผู้ประกอบการควรรีบส่งสินค้าให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
ส่วนร้านค้าใดมีกำหนดการส่งของที่แน่นอน เช่น ทุกวันจันทร์และวันศุกร์ ก็ควรจะแจ้งลูกค้าก่อนทำการตกลงซื้อขายและชำระเงิน เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสตัดสินใจ เพราะบางครั้งลูกค้าอาจต้องการใช้สินค้าเร่งด่วน ซึ่งเมื่อเราไม่อาจส่งให้ได้ก็จะสร้างความขุ่นข้องใจให้กับลูกค้าเป็นแน่
พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายๆ คนอาจมองข้ามหีบห่อที่แข็งแรงคงทนและดูดี แต่เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างความประทับใจได้มากทีเดียว อย่างที่ทราบกันว่าการส่งของทางไปรษณีย์มีความเสี่ยงที่ทรัพย์สินจะเสียหายได้ เนื่องจากไปรษณีย์
หีบห่อที่แข็งแรงคงทนและดูดี แต่เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างความประทับใจได้มาก
ต้องส่งพัสดุจำนวนมากในหนึ่งวัน จึงอาจเกิดการทับซ้อนของพัสดุหรืออาจเกิดการโยนพัสดุขึ้นรถบรรทุก ดังนั้นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จึงควรบรรจุสินค้าลงหีบห่ออย่างระมัดระวัง มีการห่อพลาสติกกันกระแทกสำหรับสินค้าที่อาจแตกได้ เช่น ตลับแป้ง เครื่องสำอาง ห่อพลาสติกหรือนำสินค้าใส่ถุงซิปล็อกอีกชั้นเพื่อกันการเปียกน้ำ และที่สำคัญที่สุดคือพ่อค้าแม่ค้าต้องปิดผนึกกล่องพัสดุให้แน่นหนาที่สุด ไม่ให้เกิดการฉีกขาดระหว่างทาง เพื่อป้องกันสินค้าเสียหายระหว่างทางพ่อค้าแม่ค้าบางรายอาจเพิ่มลูกเล่นลงบนหีบห่อและบรรจุภัณฑ์เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าก็ได้เช่นกัน เช่น เสื้อผ้าและกระเป๋า หากใส่ในถุงผ้ากันฝุ่นหรือห่อกระดาษสวยๆ ก่อนบรรจุลงกล่องก็ช่วยให้ดูมีราคามากขึ้น
หรือหากเป็นสินค้ากระจุกกระจิกน่ารักๆ ที่กลุ่มลูกค้าเป็นหญิงสาวแล้วละก็ การตกแต่งหีบห่อให้สวยงามประหนึ่งห่อของขวัญก็ช่วยสร้างความประทับใจได้เช่นกัน เพราะแสดงถึงความใส่ใจและเป็นกันเองของพ่อค้าแม่ค้า
แบบบรรจุภัณฑ์ของ Mariève Dorman และ แบบบรรจุภัณฑ์ของ Nora Renaud
• • •
แม้ว่าช่องทางออนไลน์จะเป็นที่นิยมเพราะความสะดวกสบายเป็นจุดเด่น แต่หากบริการไม่ดี ผู้บริโภคก็อาจเปลี่ยนใจไปซื้อร้านออนไลน์ร้านอื่นก็เป็นได้ ดังนั้นผู้ประกอบการขายสินค้าออนไลน์ก็ควรใส่ใจการบริการด้วย เพราะหากบริการแย่หรือไม่ซื่อสัตย์ ร้านของผู้ประกอบการอาจมีชื่อเสียงทางลบในโลกออนไลน์ จนทำให้ลูกค้าไม่อยากมาซื้อด้วยเลยก็ได้ แต่หากใส่ใจในการบริการอีกเพียงเล็กน้อยก็สามารถสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้มากกว่า ทั้งที่การบริการบางอย่างก็ใช้เงินลงทุนน้อยหรือไม่มีต้นทุนเลยด้วยซ้ำ
วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555
5 กลยุทธ์ จากสุดยอดนักขายแห่งยุค
กลยุทธ์การขายถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งในการทำธุรกิจ การสร้างสรรค์งานศิลปะที่ดีย่อมมีผู้คนสนใจมาก ก็เหมือนกับการขาย หากเรามีเทคนิคการขายที่น่าสนใจก็สามารถดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้เช่นกัน และนี่เป็น 5 กลยุทธ์การขายจากสุดยอดนักธุรกิจจากบริษัทชื่อดังของโลกอย่าง Apple, General Electric, Amazon, Ogilvy and Mather และสุดท้ายคือสุดยอดนักพูดสร้างแรงบันดาลใจแห่งยุคอย่าง Zig Ziglar
1. เข้าใจความต้องการของลูกค้ามากกว่าบริษัทอื่นๆ จาก Steve Job (Apple)
CEO ของ Apple ได้เคยกล่าวว่าบริษัทไม่เคยใช้วิธีการเก็บข้อมูลความต้องการลูกค้าจากการประชุมกลุ่มย่อยหรือโฟกัสกรุ๊ปเพื่อนำข้อมูลไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ใส่ใจหรือไม่ได้ฟังลูกค้าเลย เพราะที่จริงแล้ว Apple ให้ความสำคัญกับการสำรวจความต้องการรวมถึงเป้าหมายของลูกค้าอยู่สม่ำเสมอ ผ่านทางแบบสอบถามความพึงพอใจจากลูกค้า ทั้งแบบที่ส่งตรงถึงอีเมลลูกค้าเพื่อสอบถามความพอใจต่อสินค้าที่เพิ่งซื้อไป หรือข้อมูลที่พนักงานสาขาคอยสังเกตและสอบถามจากลูกค้าที่เข้ามาชมสินค้าที่ร้าน โดย Apple จะดึงข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ในการหาคำตอบว่าผลิตภัณฑ์แบบไหนที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างหมดจดงดงาม ทรงประสิทธิภาพ และทำกำไรสุดๆ ไปพร้อมๆ กันด้วย
2. ผมจะต้องบริหารธุรกิจด้วยมาตรฐาน 3 อย่าง สิ่งเหล่านั้นคงเป็นเรื่อง " ความพึงพอใจของลูกค้า ความพึงพอใจของพนักงานและเงินสดหมุนเวียน" จาก Jack Welch (General Electric)
จริงอยู่ที่การพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น มีความแปลกใหม่หลากหลายและลูกเล่นที่น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ เป็นกิจกรรมหลักสำคัญที่จะช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าให้มากขึ้น และการดูแลพนักงานให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขและภาคภูมิใจในการทำงานก็เป็นเรื่องสำคัญที่องค์กรต้องคอยดูแลเพื่อให้การทำงานเดินไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่น แต่ทั้ง 2 อย่างที่กล่าวมาคงจะสูญเปล่า ถ้าหากว่าทุกสิ่งที่บริษัทพยายามทำออกมาไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ผู้บริหาร GE เข้าใจความสำคัญของการรักษาสมดุลทั้ง 3 สิ่งนี้ดี และเน้นให้เห็นความสำคัญของการให้น้ำหนักความสำคัญกับความพึุงพอใจของลูกค้ามาเป็นอันดับหนึ่ง ก่อนที่จะพัฒนาสิ่งอื่นๆ ในแนวทางที่จะตอบโจทย์ลูกค้าตามมา
3. ถ้าคุณสร้างความประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เดี๋ยวลูกค้าจะบอกต่อกันเอง จาก Jeff Bezos (Amazon)
ในยุคสังคมออนไลน์เช่นนี้ CEO ของ Amazon เว็บไซต์ขายของชื่อดังของโลกได้บอกไว้ว่าการโฆษณาแบบบอกต่อนั้นได้ทวีความสำคัญเพิ่มขึ้นมากกว่าช่วงที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก เพราะพฤติกรรมของลูกค้าส่วนมากในปัจจุบันมักมีความกระตือรือร้นในการแชร์ประสบการณ์ที่พานพบต่างๆ ทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ผ่านทางสังคมออนไลน์ และอินเตอร์เน็ตก็ทำให้แม้แต่หนึ่งความคิดเห็นสามารถแพร่หลายกระจายไปได้ทั่วโลกภายในเวลาเพียงชั่วครู่ ตัวอย่างที่ไม่ไกลตัวเช่น Instagram ก็เป็นบทพิสูจน์อิทธิพลของการบอกต่อผ่านทางโลกออนไลน์ได้เป็นอย่างดี เพียงระยะเวลาไม่นาน application แบ่งปันภาพถ่ายนี้ก็มีผู้ใช้ถึง 40 ล้านคนทั่วโลก อาจกล่าวได้ว่าการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจและการดูแลลูกค้าเป็นอย่างดี เป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและบอกต่อกันไปเรื่อยๆ ทำให้เกิดฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง อันจะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงต่อไป
4. ลูกค้าไม่ใช่คนโง่ พวกเขาแค่ขาดข้อมูลประกอบการตัดสินใจ จาก David Ogilvy (Ogilvy & Mather)
Ogilvy ตระหนักดีว่่าในขณะที่ลูกค้าอาจจะไม่มีความรู้เฉพาะทางเกี่ยวกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมการผลิต แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขารู้ดีกว่าใครแน่ๆ นั่นก็คือเหตุผลที่จะตัดสินว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อสินค้าชิ้นนั้น นักขายที่ประสบความสำเร็จ จะต้องใจเย็นและมีความอดทนในการอธิบายและให้ข้อมูลต่างๆ ที่ลูกค้าต้องการทราบ แม้ว่าข้อมูลบางอย่างก็เป็นเรื่องพื้นฐานทั่วๆ ไปจนไม่น่าถามเลย เพราะการให้คำแนะนำที่ดีแก่ลูกค้าด้วยความตั้งใจและตรงกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการอยากรู้จริงๆ จะช่วยทำให้การตัดสินใจซื้อของลูกค้ามีน้ำหนักและจูงใจให้อยากซื้อมากขึ้น
5. ลูกค้าจะซื้อ ก็ด้วยเหตุผลของเขา ไม่ใช่ของเรา จาก Zig Ziglar
บางครั้งเวลาเราไปซื้อสินค้าก็อาจเคยได้ยินคนขายพูดถึงความยากลำบากกว่าจะได้สินค้าชิ้นนี้มา หรือยากแค่ไหนกว่าจะขายได้สักชิ้น นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่ลูกค้าอยากรู้ ไม่มีลูกค้าคนไหนหรอกที่จะอยากรับฟังความยากลำบากหรืออุปสรรคของคนขาย ลูกค้าจะซื้อก็ต่อเมื่อสินค้านั้นตรงกับความต้องการของเขามากกว่า ลองเปลี่ยนแปลงและทำงานอย่างมืออาชีพดู โดยเริ่มจากการเอาใจใส่และพยายามทำความเข้าใจว่าอันที่จริงแล้วลูกค้าต้องการอะไร และสินค้าหรือบริการที่เรามีจะตอบความต้องการลูกค้าได้อย่างไรบ้างเพื่อหาจุดขายให้ตรงใจลูกค้าแทน ซึ่งวิธีนี้น่าจะทำให้ได้ใจลูกค้ามา้ไม่ยาก
"In business you get what you want by giving other people what they want." ~ Alice MacDougal .
photo belongs to Panegyrics of Granovetter
สุดท้ายแล้วเราจะเห็นได้ว่าแต่ละองค์กรย่อมมีกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างกันออกไป แต่มีจุดร่วมหนึ่งที่กลยุทธ์การขายเหล่าให้ความสำคัญมากกว่าสิ่งใด นั่นคือการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ตรงจุด ดังนั้นการทำธุรกิจใดก็ตามอาจลองประยุกต์วิธีคิดเหล่านี้ไปใช้มัดใจลูกค้าดู ความสำเร็จก็คงไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป
วันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2555
ทำไม ebay จึงครองใจนักช้อปออนไลน์ทั่วโลก
การซื้อขายออนไลน์เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะสะดวกทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ผู้ซื้อไม่ต้องตั้งร้าน ขณะที่ผู้ขายก็ไม่ต้องเดินทางไปซื้อสินค้าไกล แค่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็สั่งซื้อสินค้าตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคทั้งหลายได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าจะมีเว็บไซต์สินค้าออนไลน์หลากหลาย ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับสากลอยู่มากมาย แต่มีเพียงไม่กี่แห่งที่ขาช้อปออนไลน์นึกถึงเป็นอันดับต้นๆ และหนึ่งในนั้นคือ eBay เว็บไซต์ประมูลและจำหน่ายสินค้าซึ่งเริ่มเปิดกิจการย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
หากเราต้องการรู้ว่าเพราะเหตุใด eBay ถึงสามารถครองใจนักช้อปออนไลน์ได้มากขนาดนี้ เราต้องย้อนกลับไปดูวันแรกของ eBay เข้าสู่โลกเว็บไซต์ และลองวิเคราะห์เหตุผลซึ่งได้มาดังต่อไปนี้
Omidyar วาง Business Model ของ eBay เป็นแบบ C2C ( Consumer-to-Consumer) คือเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายที่เป็นผู้บริโภคโดยตรงหรือบุคคลธรรมดาๆ เข้าด้วยกัน ทำให้ eBay ไม่มีต้นทุนค่าขนส่งสินค้า ไม่ต้องสต็อกสินค้า และไม่ประสบปัญหาต้นทุนคงคลังสูงอย่างเว็บไซต์ออนไลน์ Amazon
จุดเริ่มต้น
eBay ก่อตั้งเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2538 โดย Pierre Omidyar (ปิแอร์ โอมิดียาร์) ภายใต้แนวคิดการสร้างพื้นที่เพื่อซื้อขายหลอดใส่ลูกอม Pez โดยตั้งชื่อเว็บไซต์ในขณะนั้นว่า AuctionWeb และเมื่อเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น Omidyar จึงต้องการเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์เป็น echobay.com แต่มีคนจดทะเบียนชื่อโดเมนนั้นแล้ว Omidyar จึงจดทะเบียนโดเมนเป็นชื่อ ebay.com ในที่สุด
Omidyar วาง Business Model ของ eBay เป็นแบบ C2C ( Consumer-to-Consumer) คือเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายที่เป็นผู้บริโภคโดยตรงหรือบุคคลธรรมดาๆ เข้าด้วยกัน ทำให้ eBay ไม่มีต้นทุนค่าขนส่งสินค้า ไม่ต้องสต็อกสินค้า และไม่ประสบปัญหาต้นทุนคงคลังสูงอย่างเว็บไซต์ออนไลน์ Amazon ถึงแม้ว่า Business Model แบบ C2C ดูมีความเสี่ยงสูง เพราะผู้ซื้อกับผู้ขายไม่ได้เจอตัวกันจริงๆ แต่ Omidyar ดำเนินธุรกิจด้วยหลักว่าพื้นฐานของมนุษย์เป็นคนดี และเริ่มพัฒนาระบบ Feedback ที่เป็นเสมือนการการันตีว่าเป็นสมาชิกสุจริต และยังจูงใจให้สมาชิกใช้ระบบชำระเงิน PayPal เพื่อป้องกันการทุจริตอีกด้วย
ปัจจุบัน
ปัจจุบัน eBay มีสมาชิกผู้ใช้งานกว่าร้อยล้านบัญชี เปิดพื้นที่ซื้อขายและประมูลสินค้าสารพัดชนิด ตั้งแต่สินค้าธรรมดาทั่วไป สินค้าหายาก ตลอดจนสินค้ามูลค่าสูง เช่น โครงกระดูกช้างแมมมอธอายุห้าหมื่นปีซึ่งเคาะราคาที่ 60,000 ปอนด์ และเครื่องบิน Gulfstream Jet ซึ่งขายได้ในปี 2544 ด้วยราคาสูงถึง 4.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นราคาสูงสุดที่ขายได้ใน eBay นับแต่เริ่มเว็บไซต์จนถึงปัจจุบัน
ประธานและซีอีโอคนปัจจุบันของ eBay คือ John Donahoe (จอห์น โดนาโฮ) ซึ่งเริ่มเข้ารับตำแหน่งในปี 2551 ด้านผลประกอบการของ eBay ในปี 2554 อยู่ที่ 1.17 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ eBay ตั้งเป้าผลประกอบการในปีนี้อยู่ที่ 13,800 - 14,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับหน้าตาเว็บไซต์ eBay ปัจจุบันได้รับการปรับปรุงในปี 2553 ตามคำเรียกร้องของร้านค้าต่างๆ ใน eBay ในการปรับปรุงครั้งนี้เน้นความสำคัญของสมาชิกเพิ่มขึ้น โดยการแสดงผลจะเหมาะสมกับสมาชิกแต่ละราย อาทิ การแสดงคำค้นหาที่สมาชิกเคยใช้ในครั้งก่อนๆ ขณะเดียวกันบนหน้าเว็บไซต์จะปรากฎสินค้าที่กำลังได้รับความนิยม และแสดงสินค้าที่มอบส่วนลดที่น่าสนใจอีกด้วย รวมทั้งเพื่อให้ลูกค้าสามารถ เลือกปรับแต่งการค้นหาที่หน้าเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับการใช้ของตัวเอง
ด้วยเป็นร้านค้าออนไลน์ กลยุทธ์สำคัญจึงอยู่ที่หน้าร้านหรือหมายถึงในหน้าเว็บไซต์ของ eBay นั่นเอง ซึ่งสามารถสรุปออกมาในประเด็นดังต่อไปนี้
1.) หน้าแรกของเว็บไซต์
eBay ทำหน้าที่คิดแทนสมาชิกว่าสมาชิกแต่ละคนกำลังมองหาอะไร โดยศึกษาพฤติกรรมการซื้อ การค้นหา และการติด wish list, watch list และ gift list ให้กับสินค้าที่สมาชิกเข้ามาชมเมื่อครั้งก่อน
eBay ทำหน้าที่คิดแทนสมาชิกว่าสมาชิกแต่ละคนกำลังมองหาอะไร โดยศึกษาพฤติกรรมการซื้อ การค้นหา และการติด wish list, watch list และ gift list ให้กับสินค้าที่สมาชิกเข้ามาชมเมื่อครั้งก่อน และเมื่อสมาชิกเข้า eBay อีกครั้ง สิ่งที่ปรากฏจะมีตั้งแต่คำค้นที่เราใช้ค้นหาสินค้าเมื่อครั้งก่อนๆ สินค้าที่เราเคยดูแล้ว สินค้าแนะนำซึ่งแสดงผลโดยอิงจากการดูสินค้าครั้งล่าสุดของเรา (inspired by your recently viewed items) สินค้าประเภทเดียวกับที่เราเคยดูซึ่งเป็นที่นิยมในเว็บไซต์ สิ่งที่ปรากฏในหน้าแรกทำให้สมาชิกสามารถดูสินค้าถัดจากเดิมได้อย่างต่อเนื่อง ในอีกแง่หนึ่งก็เป็นผลดีให้กับผู้ขายด้วย เพราะเพิ่มโอกาสการที่ลูกค้าจะพบเห็นและเลือกซื้อสินค้า ซึ่งการแสดงผลหน้าแรกที่คล้ายกันนี้สามารถพบได้ในหน้าแรกของ Amazon เว็บไซต์คู่แข่งรายใหญ่ของ eBay ด้วยเช่นกัน
2.) วิธีการค้นหา
การค้นหาของ eBay เป็นอีกสิ่งที่ช่วยเพิ่มความนิยมให้กับเว็บไซต์ eBay จากการแสดงผลที่ชัดเจน และสมาชิกสามารถระบุคำค้นที่ตรงกับความต้องการได้ สำหรับคำค้นบางชนิดซึ่งเป็นสินค้าหลัก เช่น กระเป๋า เมื่อใส่คำค้นไปแล้วจะปรากฏคำค้นย่อยที่มีคำอธิบายพร้อมรูปภาพประกอบเพื่อให้เราเลือกว่าสินค้าที่เรามองหา อยู่ประเภทไหน เมื่อใส่ค้นว่ากระเป๋า ก็จะมีคำบรรยายพร้อมภาพให้เลือกในลำดับถัดไป เช่น cross-body, satchel, handbag เป็นต้น ซึ่งสำหรับผู้ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ ไม่รู้คำเฉพาะ หรือประเภทสินค้า เมื่อดูภาพก็จะเข้าใจได้ทันที
นอกจากนี้หากเราอยากลงลึกในคำค้น ทางด้านซ้ายมือจะปรากฏกรอบที่สามารถกำหนดรายละเอียดอื่นๆ เช่นส ภาพสินค้า (ใหม่ มือสอง) รูปแบบการซื้อ (ซื้อ/ประมูล) สินค้าที่แสดงผลต้องมีคุณสมบัติตามที่เลือกเท่านั้น (ส่งเร็วพิเศษ คืนสินค้าได้ ส่งฟรี ฯลฯ) ที่มาของสินค้า เป็นต้น
เมื่อเปรียบเทียบกับเว็บไซต์คู่แข่งอย่าง Amazon พบว่า Amazon ไม่มีตัวเลือกค้นหาที่มาพร้อมภาพประกอบ เมื่อค้นสินค้าประชนิดเดียวกันก็จะปรากฏประเภทสินค้าแบบคร่าวๆ รวมทั้งประเภทสินค้าอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้ประเภทใหญ่เดียวกัน และไม่สามารถลงละเอียดเชิงลึกอย่าง eBay ได้ทันที
3.) ระบบ rating ของผู้ขาย
ระบบ rating ของผู้ขายที่ eBay ช่วยสมาชิกในการตัดสินใจซื้อได้ดีมาก สินค้าที่ปรากฏหลังการค้นหา นอกจากจะบอกรายละเอียดสินค้าแล้ว ผู้ขายสินค้าที่ได้รับการจัดคุณภาพสูงสุดจะมีตรา “top-rated seller” ปรากฏด้วย
ซึ่งผู้ขายที่ได้รับตรานี้ นอกเหนือจากมีคุณสมบัติอื่นๆ แล้ว (อ่านได้ที่นี่ http://pages.ebay.com/help/sell/top-rated.html#what) ต้องมี positive feedback 98% ซึ่งมาจากการให้คะแนนความพึงพอใจจากลูกค้าด้วยดาว (คะแนนเต็ม 5 ดาว) จากเกณฑ์ 4 ประเภท (สินค้าเป็นจริงตามคำบรรยาย การสื่อสารกับลูกค้า ระยะเวลาจัดส่ง ค่าขนส่ง และค่าดำเนินการ) ซึ่งผลักดันให้ผู้ขายปรับปรุงคุณภาพสินค้าและบริการเพื่อสร้างความพอใจให้กับลูกค้า เนื่องจากได้เลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ ราคา และคุณสมบัติตามที่คนขายระบุไว้ เพราะถ้าไม่เป็นตามนั้น วัฏจักรที่ตามมาก็คือลูกค้าให้ positive rating แก่ผู้ขายในระดับต่ำนั่นเอง สำหรับการจัด rating ไม่ได้เป็นจุดเด่นใน Amazon เนื่องจากเว็บไซต์ดงกล่าวเน้นระบุรายละเอียดของสินค้า เพราะ Amazon เองทำหน้าเป็นตัวกลางในการเก็บสต็อกสินค้าและการจัดส่ง
4.) PayPal
PayPal ถือเป็นหนึ่งกลยุทธสำคัญของ eBay ที่ eBay เข้าซื้อไปเมื่อปี 2547 PayPal คือระบบรับส่งเงินของบุคคลทั่วไปและธุรกิจ สมาชิก PayPal เพียงสมัครบัญชีแล้วผูกบัญชีกับบัตรเครดิตหรือเดบิตก็สามารถชำระสินค้าหรือรับส่งเงินได้ ปัจจุบันมีประเทศที่รับชำระเงินผ่าน PayPal 190 ประเทศ และสามารถใช้ได้กับร้านค้าออนไลน์หลายล้านแห่ง รวมถึง eBay ด้วย
PayPal ถือเป็นระบบที่การันตีความปลอดภัยทั้งผู้ส่งและผู้รับเงิน โดยข้อมูลของผู้ส่งเงิน (หรือในกรณีซื้อสินค้าจะหมายถึงผู้ซื้อ) จะไม่เปิดเผยแก่ผู้รับเงิน (ผู้ขาย) และยังมีระบบคุ้มครองผู้ซื้อในกรณีที่ชำระเงินและไม่ได้รับสินค้า รวมทั้ง ระบบคุ้มครอง 100% ไม่ให้การชำระเงินจากบัญชีที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าถึงบัญชีของเราได้ นอกจากนี้การชำระเงินผ่าน PayPal ยังมีความสะดวกรวดเร็ว โดยผู้ส่งเงิน (ผู้ซื้อ) ไม่ต้องกรอกรายละเอียดใน PayPal ซ้ำทุกครั้งในการชำระเงิน และสามารถส่งเงินได้รวดเร็วกว่าช่องทางธรรมดา จากการศึกษาพบว่า 84% ของการชำระผ่าน PayPal ทำให้เงินส่งถึงผู้ขายภายใน 24 ชั่วโมงหลังปิดประมูลสินค้า ซึ่งการส่งเงินที่รวดเร็วกว่าจะเป็นผลให้ส่งสินค้าได้รวดเร็วกว่าด้วย นอกจากนี้ ผู้ส่งเงิน (ผู้ซื้อ) ยังสามารถชำระเงินผ่าน PayPal ได้ถึง 26 สกุลเงิน (ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสกุลเงินที่ชำระบน PayPal ตรวจสอบได้ที่ https://www.paypal-apac.com/th/business/fees-transactions/multiple-currencies.aspx)
ด้วยความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยของ PayPay ทำให้ผู้ซื้อในสัดส่วน 5 ใน 6 นิยมชำระสินค้าของ eBay ผ่านทาง PayPal และผู้ซื้อ 80% มีแนวโน้มซื้อสินค้าอีกครั้งหากช่องทางชำระเงินผ่าน PayPal
• • •
ความสำเร็จของ eBay ส่วนหนึ่งมาจากการสังเกตพฤติกรรมลูกค้า พร้อมกับเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าที่ตรงกับความต้องการ และเกิดจากระบบให้คะแนนความน่าเชื่อถือที่สร้างความมั่นใจให้สมาชิกเลือกสินค้าบน eBay กล่าวคือ eBay ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นประเด็นต้นๆ ดังนั้นธุรกิจที่ต้องการประสบความสำเร็จ นอกจากออกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพแล้ว ก็ควรคำนึงถึงความพอใจของลูกค้าเป็นหลักด้วย หรือผู้ประกอบการที่ธุรกิจคล้ายคลึงกับ eBay ก็ควรสร้างระบบคัดกรองคนขายให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการกับเราอีกครั้ง
บทความที่ได้รับความนิยม
-
“อยากทำ eBay แต่ไม่มีบัตรเครดิต ทำอย่างไร??” “ไม่ได้ทำงานประจำ” “ไม่มีสลิปเงินเดือน” “ไม่มี statement ธนาคาร” ทำบัตรเครดิต ได้หร...
-
วิธีสมัคร eBay อีเบย์ Open Account eBay สำหรับคนไทย แนะนำให้เข้า www.ebay.com.sg และคลิก Register ค่ะ กรอกข้อมูล email ที่ใช้ส...
-
สินค้าของไทยบนอีเบย์ ถือเป็นสินค้าที่ขายดี และมีศักยภาพสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ซึ่งบางครั้งมันตรงกันข้ามกับตลาดขายของในไทย ที่เราอาจม...
เกี่ยวกับฉัน
- Ebay Lover Club คนรักอีเบย์
- อาคารเจเจเอาท์เลท ชั้น 3 ถ.กำแพงเพชร 2, ภาคกลาง, Thailand
- สถาบันฝึกอบรมการสร้างธุรกิจส่งออกด้วยระบบออนไลน์แบบครบสูตร ผ่านเว็บขายสินค้า อีเบย์ ด้วยการสอนที่แตกต่าง และเน้นให้ท่านทำได้จริง-เห็นผลเร็ว โดยอาจารย์ผู้ผ่าน certified เป็น Instructor จาก Ebay USA (eBay Education Specialist) รวมถึงทีมอาจารย์ ที่พร้อมจะมาเป็นโค้ชใ ห้คำแนะนำแก่ท่านตลอดการอบรม
ตารางอบรมสำหรับนักเรียนของ ชมรมคนรักอีเบย์
เนื้อหา ความรู้ และกิจกรรมในช่วงระยะเวลา 6 เดือน
- วันแรกของการเรียน จะเป็นการเรียนรู้แนวคิด และเทคนิคที่สำคัญ เช่น
· เทคนิคการค้นหาสินค้า และการวิเคราะห์หาสินค้าขายดี เมื่อจบวันนี้จะได้รายชื่อสินค้าขายดีจำนวนมาก
· เทคนิคการตั้งราคาสินค้า
· เทคนิคการเขียนคำอธิบายสินค้าให้ถูกใจลูกค้า และติดอันดับดีๆ
· แนวคิดในการดูแลลูกค้า รวมทั้งการจัดการเมื่อเกิดปัญหากับลูกค้า
· Drop Ship เบื้องต้น
· การแก้ไขปัญหาสำหรับการลงทะเบียนเปิดบัญชีต่างๆ
· เมื่อจบวันแรก ผู้เรียนจะได้รายชื่อสินค้าขายดี รวมทั้งแนวคิดและเทคต่างๆ ที่สามารถนำไปเริ่มใช้ได้ทันที
- วันที่ 2 จนกระทั่งครบ 6 เดือน ในช่วงนี้จะเรียกว่าการ Workshop เป็นการเรียนแบบฝึกปฏิบัติจากงานจริง โดยมีทีมงานของอาจารย์คอยให้ทำปรึกษา และช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ ดังนี้
· การลงทะเบียนเปิดร้าน, ลงทะเบียน Paypal สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน หรือผู้ที่ติดปัญหาจากวันแรก
· การให้คำปรึกษาในการแก้ไขปัญหาต่างๆ สำหรับบัญชีเก่าที่เกิดปัญหา
· การให้คำปรึกษาในการแก้ไขปัญ Suspend, Limit ในการลงสินค้า
· สอนหรือแนะนำการบรรจุ และห่อสินค้าที่จะจัดส่งให้ลูกค้า
· ให้คำปรึกษาในการจัดส่งสินค้าที่ประหยัดที่สุด สำหรับสินค้าแต่ละชนิด
· เรียนซ้ำ หรือทบทวนเทคนิค หรือแนวคิดต่างๆ ที่ยังไม่เข้าใจในวันแรก
· สอนเทคนิคการถ่ายภาพสินค้าให้สวย
· สอนเทคนิคการตกแต่งรูปภาพ
· กิจกรรมพาทัวร์ซื้อสินค้าเพื่อนำไปลงประมูลขาย สำหรับมือใหม่
· สอนทบทวน Drop Ship เบื้องต้น
· สอนการทำ Drop Ship ขั้นสูง และเทคนิคการหาสินค้าและ Supplier ผู้ผลิตสินค้า
· สอนเทคนิคการโปรโมทสินค้า สำหรับผู้ประกอบการที่นำสินค้าเข้ามาขายภายในประเทศ
· Update เทคนิคหรือความรู้ใหม่ๆ
· การให้คำปรึกษา แก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่านักเรียนทุกคนจะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว
ฯลฯ
** ชมรมคนรักอีเบย์ เปิดทุกวัน เวลา 10.00 – 18.00 น. ยกเว้นวันพฤหัสบดี **
ภาคปฏิบัติที่เปิดสอนทุกวัน
10.30 – 12.30 ลงทะเบียน eBay&PayPal + ซื้อสินค้าชิ้นแรก
13.30 – 15.30 เก็บข้อมูลลูกค้า + Packing
15.30 – 17.30 ลงสินค้าชิ้นแรก + ถ่ายรูป